Array 3 มิติ
การเข้าถงึ เรยี กใช้สมาชกิ ตอ้ งมคี วามเรยี บงา่ ย 2. ง่ายต่อการเขา้ ไปหาแต่ละสมาชกิ ทม่ี หี ลายเสน้ ทาง 3. ประสิทธิภาพของการจัดเก็บทีง่ ่ายต่อการเขา้ ถงึ แต่ละสมาชิก 4.
Youtube
การใช้อาร์เรย์หลายมิติใน C จะคล้ายกับ C + +, ยกเว้นว่าเราจะใช้ malloc () \ (ฟรี) วิธีการ stdlib แทนของใหม่ \ คำหลักที่ลบ The memory representation below is the same, but we are going to focus in this section on making the elements of the 3 dimensional array contiguous. แสดงหน่วยความจำที่ด้านล่างจะเหมือนกัน แต่เราจะมุ่งเน้นในส่วนนี้เกี่ยวกับการทำให้องค์ประกอบของอาร์เรย์ 3 มิติต่อเนื่องกัน To do so, we start by allocating space for all array elements in one call to malloc. ต้องการทำเช่นนั้นเราเริ่มต้นด้วยการจัดสรรพื้นที่สำหรับทุกองค์ประกอบหนึ่งในการเรียกร้องให้ malloc Collapse | Copy Code int *allElements = malloc(x * y * z * sizeof ( int)); int * allElements = malloc (y * x * z * sizeof (int)); Next, we create the arrays of pointers, and point to the contiguous elements we've already allocated.
อาร์เรย์ 3 มิติ ก็คือ "อาร์เรย์ของอาร์เรย์ของอาร์เรย์" – เข้าถึงสมาชิกด้วย ตัวเลขดัชนี (index) 3 ตัว การกำหนดตัวแปร ชนิดตัวแปร ชื่อตัวแปร[จำนวนสมาชิก][จำนวนสมาชิก][จำนวนสมาชิก]; การกำหนดค่าให้ตัวแปรอาร์เรย์ 3 มิติ int data[2][3][2] = {{{1, 1}, {2, 2}, {3, 3}}, {{4, 4}, {5, 5}, {6, 6}}}; ในกรณีที่ไม่ต้องใส่ขนาดของมิติ int data[][] = {{{1, 1}, {2, 2}, {3, 3}}, {{4, 4}, {5, 5}, {6, 6}, {7, 7}}}; int data[2][3][1] = {{{1}, {2}, {3}}, {{4}, {5}, {6}}};
ข้อมูลในอาเรย์จะต้องเป็นประเภทเดียวกัน เช่น ถ้าเป็นตัวเลข ก็ต้องเป็นตัวเลขทั้งหมด ถ้าเป็นตัวอักษร ก็ต้องเป็นตัวอักษรทั้งหมด 2. จำนวนคอลัมภ์ของทุกแถวต้องเท่ากันเสมอ 3. จำนวนแถว ของทุกคอลัมภ์ ต้องเท่ากันเสมอ 4. จำนวนแถว และคอลัมภ์ของทุกเลเยอร์ ต้องเท่ากันเสมอ ดังนั้นหากเราจะใช้อาเรย์ 4 มิติเก็บรูปภาพ รูปภาพเหล่านั้นต้องมีขนาดเท่ากัน จึงจะสามารถเก็บเอาไว้ด้วยกันได้ แต่หากเราใช้ cell อาเรย์ เงื่อนไขต่างๆ เหล่านี้จะหายไปทั้งหมด 6. 2 การสร้างอาเรย์ ผมแบ่งการสร้างอาเรย์ออกเป็น 3 วิธีด้วยกัน คือ 1. สร้างอาเรย์ โดยการป้อนข้อมูลเองทั้งหมด >> A = [1, 2, 3, 4]; ตัวอย่างนี้คือการสร้างอาเรย์ 1 มิติ ซึ่งหากเราไม่ต้องการเขียน comma (, ) เราสามารถเขียนโดยเว้นช่องว่างเอาไว้ก็ได้ ซึ่งจะให้ความหมายเหมือนกันกับการใช้ comma >> A = [1 2;3 4]; ตัวอย่างนี้คือการสร้างอาเรย์ 2 มิติ ซึ่งเราแบ่งแต่ละบรรทัดโดยใช้ semi-colon (;) >> A(:, :, 1) = [1 2;3 4]; >> A(:, :, 2) = [5 6;7 8]; ตัวอย่างนี้คือการสร้างอาเรย์ 3 มิติ ซึ่งเราต้องสร้างขึ้นมาทีละเลเยอร์ แต่การสร้างอาเรย์แบบป้อนข้อมูลเองทั้งหมด มันก็ค่อนข้างเสียเวลาหากเราต้องสร้างอาเรย์ขนาดใหญ่ ดังนั้นจึงเป็นที่มาของวิธีที่ 2 2.
อาเรย์ 3 มิติทดสอบ bloger
#include ในหัวข้อนี้เราจะเรียนเฉพาะอาเรย์ของตัวเลข และอาเรย์ของตัวอักษรเท่านั้น ส่วน cell อาเรย์นั้นจะเรียนในหลักสูตรพื้นฐาน 2 ส่วนหลักสูตรปัจจุบันที่ผู้อ่านกำลังศึกษาอยู่นี้คือ หลักสูตรพื้นฐาน 1
6. Three-Dimensional Array คือ อาร์เรย์สามมิติ ที่มีลักษณะเป็นแผ่นตารางเรียงซ้อนกัน โดยจะมี 3 ส่วนที่สำคัญคือ แผ่น, แถว และคอลัมน์ของ อาร์เรย์สามมิติ
ภาพรวมของ Three-Dimensional Array
1. การระบุตำแหน่งของ อาร์เรย์ 3 มิติต้องใช้ index 3 ตัว คือ แผ่น, แถว และคอลัมน์
2. ใช้คำสั่งในการระบุถึงตำแหน่งของ อาร์เรย์ 3 มิติ คือ อาร์เรย์[แผ่น][แถว][คอลัมน์]
3. อาร์เรย์ 3 มิติ ใช้สำหรับการเก็บข้อมูลโครงสร้างที่มีความซับซ้อน และมีมิติที่มากกว่าอาร์เรย์ปกติ
ตัวอย่างโปรแกรม
public class Array3Dimension {
public static void main(String args[]){
int array[][][] = {
{
{3, 5, 8, 7},
{5, 0, 7, 8}},
{2, 3, 6, 5},
{5, 9, 8, 2}}};
( "Array 3 Dimension = " + array[0][1][1]);}}
ผลลัพธ์ C # 3 มิติอาร์เรย์
In C#, the concept is almost the same as in Java. ใน C #, แนวคิดที่เกือบจะเป็นเช่นเดียวกับใน Java However, C# makes the distinction between jagged and multi-dimensional arrays. แต่ C # ทำให้ความแตกต่างระหว่างอาร์เรย์ขรุขระและหลายมิติ Elements of a multi-dimensional array are stored in a contiguous block in memory while elements of a jagged array are not. องค์ประกอบของอาเรย์หลายมิติจะถูกเก็บไว้ในบล็อกติดกันในหน่วยความจำในขณะที่องค์ประกอบของอาร์เรย์ขรุขระจะไม่ได้ Java arrays are actually jagged arrays, while C# supports both and allows you to choose which one you want based on the syntax of your code. Java อาร์เรย์เป็นจริงอาร์เรย์ขรุขระในขณะที่ C # สนับสนุนทั้งสองและช่วยให้คุณสามารถเลือกที่หนึ่งที่คุณต้องการขึ้นอยู่กับรูปแบบของรหัสของคุณ Note that multi-dimensional arrays are better (in most cases) than jagged arrays, and that is considered a minus point for Java. โปรดทราบว่าอาร์เรย์หลายมิติจะดีกว่า (ในกรณีส่วนใหญ่) กว่าอาร์เรย์ขรุขระและที่ถือว่าเป็นจุดลบสำหรับ Java
Using jagged arrays in C# is not as simple as in Java.พอดีเมื่อคืน โดนถามเรื่อง จะหาค่า index
ของ ค่าที่ต้องการ จากใน array 3 มิติ ยังไง (perl)
ก็เลย เขียน (มั่วๆ) มา..
(ไม่ได้เขียนเป็น ฟังชั่น นะ)
ดังนั้น เอาไป พลิกแพลงเอาโลด
แบบ array ปกติๆ #! /usr/bin/perl
use Data::Dumper;
my $search = 'four';
my @array = (
[1, 2, 3, 'four'],
['one', 'two', 'three', 4]);
foreach my $index_a (0.. $#array){
foreach my $index_b (@{$array[$index_a]}){
if($array[$index_a][$index_b] eq $search){
print "$search = \$hash[$index_a][$index_b]\n";
exit;}}}
แบบ แปลง%hash มารับค่า (ทำ ทำไม? ) #! /usr/bin/perl
my%hash;
foreach my $i (0.. $#array){
@hash{$i} = $array[$i];}
foreach my $index_a(keys%hash){
my $i = 0;
foreach my $index_b(@{$hash{$index_a}}){
if($index_b eq $search){
print "index = \$hash[$index_a][$i] = $index_b\n";
exit;}
$i++;}}
unknown@PiratePeer~/Desktop#. /
index = $hash[0][3] = four
เสริม หาก จะเช็ค ว่า ค่านี้ เป็น array หรือไม่
ให้ใช้ ref($) เอา # Is there an isArray() in Perl? --> foreach $item (@array){
if(ref($item) eq 'ARRAY'){
#It's an array reference...
#you can read it with $item->[1]
#or dereference it uisng @newarray = @{$item}}else{
#not an array in any way... }}
Number